Emoji จากภาพวาดสู่ภาษาดิจิทัล

เชื่อว่าทุกคนคงเคยพิมพ์ข้อความสื่อสารแล้วตามด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิโมจิ (Emoji) เพื่อเสริมอรรถรสในการสื่อสาร แลใช้จนเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารประจำวันอย่างแยกไม่ออก อิโมจิไม่เพียงแต่เป็นภาพไอคอนที่น่ารักและมีสีสันเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นภาษาสากลรูปแบบใหม่ที่คนทั่วโลกใช้ในการสื่อสารแสดงอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดต่าง ๆ บทความนี้จะพาคุณสำรวจวิวัฒนาการของอิโมจิ ตั้งแต่ภาพวาดง่าย ๆ ไปจนถึงการเป็นภาษาดิจิทัลที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบัน

emoji language

จุดเริ่มต้นของอิโมจิ: จากภาพวาดสู่สัญลักษณ์

อิโมจิมีจุดเริ่มต้นในช่วงปี 1990s ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีนักออกแบบชื่อว่า ชิเกทากะ คูริตะ (Shigetaka Kurita) เป็นผู้สร้างสรรค์อิโมจิชุดแรกในปี 1999 ขึ้นมาเพื่อใช้ในแพลตฟอร์มมือถือของบริษัท NTT DoCoMo ในชุดแรกนั้น อิโมจิมีจำนวนทั้งหมด 176 ตัว แต่ละตัวมีขนาดเพียง 12×12 พิกเซลเท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้การสื่อสารผ่านข้อความเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้ภาพเล็ก ๆ แทนคำหรือวลีที่ใช้บ่อย ๆ

อิโมจิในยุคนั้นยังคงเรียบง่ายและมีลักษณะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอารมณ์พื้นฐาน เช่น ความสุข ความเศร้า ความรัก รวมถึงสัญลักษณ์ทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ดวงอาทิตย์ เมฆ และร่ม แม้จะมีขนาดเล็กและรูปแบบที่เรียบง่าย แต่อิโมจิเหล่านี้ก็ได้แสดงถึงศักยภาพในการสื่อสารที่ภาพวาดสามารถสื่อถึงได้มากกว่าข้อความธรรมดา

การยอมรับในระดับสากล: การเปลี่ยนผ่านสู่ภาษาดิจิทัล

การพัฒนาของอิโมจิไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปยังทั่วโลก เมื่อแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง Apple, Google และ Microsoft เริ่มนำอิโมจิมาใช้งานในระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในช่วงต้นปี 2010s การยอมรับในระดับสากลนี้เป็นผลมาจากความสามารถของอิโมจิในการสื่อสารที่ไม่จำกัดด้วยภาษา และสามารถเข้าใจได้ง่ายจากผู้คนหลากหลายวัฒนธรรม

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้อิโมจิกลายเป็นภาษาดิจิทัลอย่างแท้จริงคือการเข้าร่วมในมาตรฐาน Unicode ซึ่งเป็นระบบที่กำหนดรหัสให้กับตัวอักษรและสัญลักษณ์ในภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก การที่อิโมจิถูกรวมเข้ากับมาตรฐาน Unicode ในปี 2010 ทำให้อิโมจิสามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนอุปกรณ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้อิโมจิกลายเป็นภาษาสากลในโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง

emoji teen

การใช้อิโมจิในยุคดิจิทัลที่มากกว่าการแสดงอารมณ์

ปัจจุบันอิโมจิไม่ได้ถูกใช้เพียงแค่การแสดงอารมณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารในหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นการตลาด การสื่อสารในองค์กร หรือแม้กระทั่งในการสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัว

1. การตลาดและการโฆษณา

อิโมจิถูกนำมาใช้ในการสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในการตลาดดิจิทัล เนื่องจากอิโมจิสามารถสื่อสารได้อย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้รับสาร แบรนด์ต่าง ๆ มักใช้อิโมจิในข้อความโฆษณา โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ หรือแม้กระทั่งในหัวข้ออีเมล เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค

2. การสื่อสารในองค์กร

ในยุคที่การทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติ อิโมจิได้เข้ามามีบทบาทในการสื่อสารในองค์กร การใช้อิโมจิในข้อความแชทหรืออีเมลภายในองค์กรช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีชีวิตชีวาและลดความเข้าใจผิดได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตรและเพิ่มความรู้สึกของการเชื่อมโยงกันในทีมงาน

3. การสร้างแบรนด์ส่วนตัว

ในยุคที่ทุกคนสามารถสร้างแบรนด์ส่วนตัวของตนเองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อิโมจิกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการแสดงตัวตนและความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล การเลือกใช้อิโมจิในโพสต์ บทความ หรือข้อความแชท สามารถสะท้อนถึงบุคลิกและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน

emoji word

อิโมจิกับการพัฒนาทักษะทางดิจิทัล

การใช้อิโมจิอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจและการพัฒนาทักษะทางดิจิทัล การเลือกใช้อิโมจิให้เหมาะสมกับบริบทและกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การใช้อิโมจิที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือการสื่อสารที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ได้

นอกจากนี้ การสร้างอิโมจิของตนเองหรือการออกแบบอิโมจิเพื่อใช้ในแคมเปญการตลาดเฉพาะกลุ่มก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สามารถพัฒนาได้ในยุคดิจิทัล การใช้เครื่องมือดิจิทัลในการออกแบบและสร้างสรรค์อิโมจิ เช่น การใช้โปรแกรมออกแบบกราฟิก หรือการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างอิโมจิในฟอร์แมตที่สามารถนำไปใช้ได้จริง จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางเทคโนโลยี

อิโมจิในอนาคตความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

อิโมจิยังคงมีการพัฒนาและขยายตัวอยู่ตลอดเวลา ในแต่ละปี Unicode Consortium ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแลมาตรฐาน Unicode จะมีการเพิ่มอิโมจิใหม่ ๆ เข้าไปในรายการของ Unicode เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอิโมจิที่แสดงถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย การรวมเพศ หรือแม้กระทั่งการแสดงถึงประเด็นสังคมต่าง ๆ

ในอนาคต เราอาจเห็นอิโมจิที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์หรือสถานการณ์ของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าอิโมจิอาจถูกนำมาใช้ในการสื่อสารในรูปแบบใหม่ ๆ เช่น ในโลกของความจริงเสมือน (Virtual Reality) หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถเข้าใจและสร้างอิโมจิที่เหมาะสมได้ตามบริบท

creative emoji

สรุป

อิโมจิได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่มีอิทธิพลและความสำคัญอย่างยิ่ง จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงภาพวาดเล็ก ๆ ในญี่ปุ่นจนกลายเป็นภาษาดิจิทัลที่คนทั่วโลกใช้ในการแสดงอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดต่าง ๆ การพัฒนาทักษะในการใช้อิโมจิอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่คนรุ่นใหม่ควรใส่ใจ ไม่เพียงแต่ในการสื่อสารประจำวันเท่านั้น แต่ยังในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีความหมายและส่งผลกระทบในสังคมดิจิทัลอีกด้วย

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save